ที่สุดแห่งรีวิวมหากาพย์ ฉบับคนเร่งรีบ “ครีม All in one” 7 แบรนด์ที่ใช้ ตั้งแต่ถูกยันแพง
Friday, April 20, 2018
ฮัลโหลววววว กลับมาอีกครั้งแล้วกับกระทู้รีวิวเปิดกรุจ้า....
วันนี้มาในตอนครีม All in one ค้นหาครีมในดวงใจสไตล์คนขี้เกียจแต่อยากหนังหน้าดี
ซึ่งเหมาะมากๆ
กับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน ที่ต้องเร่งรีบ
ถ้าใครติดตามกวางมาสักพักจะรู้เลยว่า
กวางเป็นคนที่ขี้เกียจมากก
จริงๆ
ก็ไม่ใช่เพราะขี้เกียจอย่างเดียวหรอก แต่เราต้องมีเวลาทำอย่างอื่นด้วย
เช่น
อ่านหนังสือ ทำงาน ดูหนังกับแฟน ใช้เวลากับพ่อแม่ เที่ยวเล่นกับเพื่อน นอนพักผ่อน
ซึ่งที่จริงเรื่องนอนสำคัญที่สุด
5555+
ดังนั้นเราก็ต้องลดเวลาที่มันไม่จำเป็นทิ้งไปซะ
อาทิ
ล้างหน้าก็อยากตัวเดียวแบบสะอาดหมดจด
ครีมทาหน้าก็อยากแบบตัวเดียวจบเช่นกัน
แต่งหน้าก็แต่งให้เสร็จภายใน 5 นาที ไรแบบนี้ ทุกอย่างต้องใช้ดีและเร็วด้วยจ้า
และนี้คือสาเหตุทั้งหมดที่กวางออกตระเวณค้นฟ้าคว้าดาวหาครีมทาหน้าในดวงใจ
เพราะว่าถ้าผิวหน้าดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ไม่มีสิวไม่ต้องเสียเวลาใช้รองพื้น คอนซิลเลอร์ด้วย
ทากันแดด
ลงแป้งก็ออกจากบ้านได้ เมื่อแต่งหน้าบางๆ ก็ไม่ต้องเสียเวลาทำความสะอาดไปอีกกก
พล่ามมานาน
เข้าสู่การเปิดกรุรีวิว เทียบตัวต่อตัว ครีมตัวเดียวจบ ตอบทุกโจทย์ของผิวหน้ากันเถอะ
มีอะไรบ้างนั้น
เรามาดูภาพหมู่กัน.............
สำหรับเพื่อนๆ
คนไหนที่เป็นคนชอบความสะดวกสบาย ใช้ตัวเดียวจบเหมือนกับกวาง
ก็ตามมาดูกันเลยคร่า
เริ่ม!!!
.
.
.
1.SMOOTH E White
ปริมาณ 30 g. ราคา 250 บาท
ครีมในตำนานอย่างสมูทอี ไวท์ ที่มีพี่โมเม พาเพลินเป็นพรีเซ็นเตอร์
และเกียรติศัพท์อันเกรียงไกร
แน่นอนว่าชื่อสมูทอี ก็ต้องมีวิตามินอีเป็นส่วนประกอบด้วย
ซึ่งช่วยเติมความชุ่มชื่น ลดรอยเหี่ยวย่น ลดรอยแผลเป็น
และลดการอักเสบของสิวด้วยนาจา
รวมถึงรุ่นนี้มี พลัส ไวท์
ด้วยก็จะมีคุณสมบัติในเรื่องความขาวกระจ่างใส ปิ๊งๆ
มาในรูปแบบหลอดสีขาวอันคุ้นเคยในแบบฉบับของสมูทอี
และมีการเปิด-ปิดแบบฝาหมุนเกลียว
หากต้องการใช้ก็เพียงแต่บีบเนื้อครีมออกมาเท่านั้น
Texture
:
เนื้อครีมสีขาว เนื้อครีมข้นนิดๆ กลิ่นหอมตามแบบฉบับสมูทอี
ที่คงกลิ่นเฉพาะตัวของตัวเอง
Feeling
:
ใช้เวลาในการซึมลงสู่ผิว คือต้องถูกวนนาน
พยายามต้องปาดไปทาโน้นทางนี้ เวลาทาจะรู้สึกหนึบๆ เล็กน้อยที่ผิวหน้า
ผลลัพธ์ : หลังทาทันทีรู้สึกว่าหน้าสว่างขึ้น
1 ระดับ โดยส่วนตัวพอทาไประหว่างวันจะเริ่มเยิ้ม หน้าดูหมอง
เลยเปลี่ยนไปทาตอนกลางคืนแทน เรื่องรอยแผลเป็นไม่รู้ว่าจางเร็วขึ้นมั้ย
เพราะรู้สึกว่าหายตามกาลเวลาตามปกติ และหลังจากใช้ไปได้ไม่กี่วัน
ก็มีสิวอุดตันเกิดขึ้น
พยายามหยุดแล้วก็กลับมาใช้
ก็มีลักษณะแบบเดิม ก็เลยยอมแพ้แล้วก็ได้ เซย์กู๊ดบายกันไป แล้วตอนแรกมั่นใจจากเห็นรีวิวคนอื่นๆ
ก็ฟาดหลอดใหญ่มาเลย เลยรู้สึกเสียใจที่ใช้ได้ผลไม่เหมือนชาวบ้านเขา
เพราะถ้าเทียบปริมาณและราคาถือว่าถูกมาก แต่พอใช้แล้วไม่ถูกกับหน้าก็แอบเสียดายนิดๆ
ค่ะ ถึงราคาจะไม่ได้แพงมาก แต่เราต้องทิ้งไป T T
2.WHYSUGARS
มาที่ตัวที่สอง
เห็นตัวแรกมีคำว่า White
ก็ต่อที่ตัวนี้เลย เพราะทางแบรนด์ก็เคลมในเรื่องความขาวเช่นกัน
กับยี่ห้อ
WHYSUGARS
Protective Whitening Cream ที่เห็นคุณอายตา
บิ้วตี้บล็อกเก้อร์อีกหนึ่งท่านที่กวางติดตามอยู่ ออกมาแนะนำใช้ในขั้นตอนเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า
แล้วหน้าจะไม่เป็นคราบ ลงกันแดดอีกตัวเดียวคือจบ อั๊ยยะ!!
คุณสมบัติดีๆ ที่เราคู่ควรจริงๆ ไม่รอช้ารีบสอยตาม
โดยที่ตัวนี้จะเป็นครีมน้ำตาลแพลงก์ตอน ที่ช่วยเรื่องของผิวขาวใส
แล้วก็ช่วยปกป้องมลภาวะ
โดดเด่นด้วยแพ็คเกจจิ้ง
มาเป็นก้อนน้ำตาลเลย และกระปุกครีมจะเป็นสีดำเงาๆ คร่า
เป็นกระปุกทรงสี่เหลี่ยมแบบฝาหมุนกลียว ที่ภายใต้ฝาหมุน ยังมีฝาอีกหนึ่งชั้นปิดอยู่ด้วย
ดีงามมากๆ
Texture
: เป็นเนื้อครีมเนียนๆ บางๆ ขาวใสๆ มีกลิ่นหอมหวานๆ อ่อนๆ ที่ไม่เหมือนกลิ่นน้ำหอมนะ
ส่วนตัวคือชอบ
Feeling : เวลาทาที่ผิวหน้าจะบางเบามาก
รู้สึกเย็นสบาย ซึมลงผิวเร็ว
ผลลัพธ์ : หลังใช้ประมาณ 7
วันก็รู้สึกได้ถึงหน้าที่ผ่องขึ้นใสขึ้นแล้ว จุดด่างดำก็จางลง
ทั้งที่จริงๆ แบรนด์เคลมที่ 14 วัน ด้วยความที่มันไม่เหนียวเหนอะหนะ
กวางเลยใช้ทาทั้งเช้าทั้งก่อนนอน หน้าเด้งมาก ที่สำคัญไม่แพ้ ไม่มีสิว ไม่มีผื่นเห่อขึ้นแต่อย่างใด
อันนี้ถือว่าผ่าน แถมคืนไหนไม่ล้างหน้า สิวก็ยังไม่ขึ้นเลยอ่ะ 5555+
จริงๆจากที่เห็นในภาพคือจะหมดแล้ว
แต่นี้ไม่ใช่กระปุกแรกอ่ะ ถามว่าซื้อต่อมั้ย ก็ต้องตอบว่าซื้อต่อแน่นอน
3. Pika Pika
ปิก้า ปิก้า ไวท์เทนนิ่ง ไวท์ ไรซ์ ออล-อิน-วัน เจล ที่เดินไปเจอในวัตสัน
ก็เลยขอสอยมาลองสักหน่อย
เจลบำรุงผิวหน้า ใช้แทน ซีรั่ม, โทนิค, โลชั่น, ครีมบำรุงผิวหน้า,
มาส์ก หรือ เมคอัพเบส ได้โหม้ดดด
คือ ออล-อิน-วัน เกิ้นนนนน และเป็นเจลที่ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น
นาจา
โดยมีส่วนประกอบหลักที่น่าจะมาจาก
สารสกัดจากรำข้าว เพราะเห็นมีคำว่า White rice ในชื่อครีม
จากที่แบรนด์เคลม เจ้าตัวนี้จะช่วยเรื่องความชุ่มชื่น กระจ่างใส
สีผิวสม่ำเสมอ เรียบเนียน และกระชับยืดหยุ่น
ด้วยความที่มาจากญี่ปุ่น
ดีไซน์ทั้งกล่องและกระปุก ก็จะมีความตะมุตะมิหน่อยๆ
เมื่อเปิดฝาสีชมพูออก
ก็จะเจอกับเนื้อครีมเลย ไม่ได้มีฝาอื่นปิดเพิ่มแต่อย่างใด
Texture
: เป็นเนื้อครีมเจลใสๆ กลิ่นแอลกอฮอล์แรงมากกก
จนกลิ่นคล้ายกาวลาเท็ก
Feeling
: ทาแล้วเย็นสบายหน้า
ซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว เนื้อเจลไม่เหนียวเหนอะหนะแต่อย่างใด
ผลลัพธ์ : อันนี้บอกไม่ได้จริงๆ
เพราะใช้ไปแค่ 3 ครั้ง ผดแดงขึ้นตั้งแต่คืนแรกที่ตื่นมา แต่ยังฝืนใช้ต่อจนเริ่มคันหน้า
เลยหยุดดีกว่า ไปอ่านรีวิวคนอื่น มีคนที่ใช้ได้ผลดีด้วย
อันนี้อาจเป็นที่ผิวกวางบอบบางเองค่ะ
ใครอยากลองใช้ก็อาจทำการทดสอบที่ท้องแขนก่อนก็ได้นะคะ
ก่อนหน้านี้
เห็นที่วัตสันมีโปรโมชั่น ชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาทด้วย ใครอยากใช้แบบไม่เสียดายก็หารเพื่อนแล้วหารกันค่ะ
อย่าเชื่อใครจนกว่าจะได้ลองด้วยตัวเองนะคะ
แต่กลิ่นอันนี้ตรงๆ กวางไม่โอเค 5555+
4. preme NOBU
ปริมาณ 30 g ราคา 590 บาท
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า
พรีม โนบุ ออล อิน วัน เจล อีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นแบบ All in one
ตัวนี้คือเห็นโฆษณาเยอะมาก
อย่างใครที่ขึ้น BTS
ก็น่าจะมีผ่านหูผ่านตากันบ้างกับเจ้าตัวนี้
โดยที่มีคำโปรยคล้ายกับ ปิก้า ปิก้า นั่นก็คือเป็นทั้ง Essence,
Serum, Lotion, Moisturizer, Makeup Base
สำหรับส่วนประกอบที่ชูโรงคือ Triple
Collagen ที่แบรนด์บอกว่าสกัดจากปลาทะเลน้ำลึก
ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น
ความยืดหยุ่น คลอลาเจน พวกนี้แหละ แล้วก็มีตัวอื่นๆ อีก
อย่างสารสกัดจากข้าวญี่ปุ่นไรงี้
เอาจริงๆมีความคล้ายมากกับปิก้า
ปิก้า แต่ว่าวัสดุที่ใช้ทำแพคเกจจิ้งดีกว่ามาก
เปิดฝาเกลียวสีชมพูเงา
น่าร้ากกก ของกระปุกออก ก็จะเป็นฝาสีขาวโปร่งแสงปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง
Texture
:
เป็นเนื้อเจลใสๆ บางเบามาก มีกลิ่นแอลกอฮอล์เบาๆ
แต่ไม่แรงเท่าปิก้า ปิก้า
Feeling
: ทาลงผิวหน้าแล้วซึมลงสู่ผิวเร็วมากกก
ผลลัพธ์ : รู้สึกไม่แตกต่างเท่าไหร่
ไม่แพ้ ไม่ทำให้หน้าแย่ลง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหนังหน้าดีขึ้นแต่อย่างใด ตอนแต่งหน้าคือหน้าก็ยังเป็นขุยๆ
อยู่ แล้วไม่ได้เป็นแค่ที่มุมปากด้วย คือเป็นทั้งหน้าเลย
แต่ช่วยเรื่องกระชับรูขุมขนกับหน้าแลดูกระชับขึ้น
5. Beauty Idol DONKEY MILK REBORN Day
& Night Cream Mask
ผลิตภัณฑ์จาก
Beauty
Buffet ที่เห็นชื่อก็พอทราบว่าส่วนประกอบหลักมาจากนมลา
สาวๆ
ก็จะทราบกันดีว่า คุณสมบัติของน้ำนมจะมีส่วนช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น เนียนนุ่ม
อยู่แล้ว
และมี
NIO-OXY
นวัตกรรมจากอิตาลี ที่ช่วยปรับผิวขาว กระจ่างใส
(รู้ได้เพราะอ่านรีวิวมา)
เจ้ากระปุกนี้สอยมา
เพราะเห็นคนรีวิวเยอะ แล้วข้างกล่องก็เขียนบอกว่า “สวยครบในขั้นตอนเดียว”
ก็เลยลองดูนาจา
ที่เห็นก็คือจะเป็นขวดสีขาวมุกวิ้งๆ
ดูดีมีชาติตระกูลมากๆ มาในกล่องสวยหรูขาวเหลือบสีเงินรุ้ง
ก็จะเห็นชั้นแรกมีฝาปิด และมีช้อนไว้ตักครีมกันด้วย
อนามัยสุดพลัง 555+
คิดว่าชั้นจะใช้มั้ย!!!
Texture
:
เนื่องจากชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นเนื้อครีมมาส์ก
ตัวนี้คือเนื้อครีมหนักสุดในทุกตัวที่รีวิวในครั้งนี้ กลิ่นหอมน้ำนม
แต่ไม่ใช่แบบนมวัวและหอมกลิ่นน้ำหอมมากก ใครแพ้น้ำหอมก็โปรดระวังกันด้วยจ้า
Feeling
:
พอเป็นเนื้อครีมมาส์กทาตอนแรกจะหนักหน้ามาก หลังครีมซึมแล้วผิวเราจะหนึบๆ
แบบสัมผัสไปแล้วรู้ว่าเคยทาครีมมา
ผลลัพธ์ : ลดจุดด่างดำได้ดี
แล้วหน้าชุ่มชื้นขึ้นจริง ชุ่มชื้นจนระหว่างวันอาจดูมันไปบ้าง 5555+ หน้าดร็อประหว่างวันนิดหน่อย ถ้าทาตอนกลางวัน แอบมีผดเล็กๆ แดงๆขึ้นด้วย กวางเลยย้ายมากลางคืน
เห็นบอกเป็นครีมมาส์ก แล้วข้างกล่องก็เขียนให้พอกหนาๆ เราก็โปะแบบหนาๆ เลย
แต่ทำไมรู้สึกหน้าแสบปนร้อนมากๆ ก็ไม่รู้ รีบเกลี่ยออก แล้วทนดู ผ่านพ้นคืนนั้นคือผิวหน้านุ่มดีมากกก
แล้วหน้าตอนตื่นแอบดูมันหน่อยๆ
ตอนนี้ก็คือใช้ทาแบบครีมมาส์กแทนแต่ไม่ทาหนา
เพราะซื้อมาแพงยังไม่กล้าทิ้ง ทาวัน เว้น 2 วันไรแบบนี้
6. TOMEI
โทเมอิ ที่เลื่องลือและขึ้นชื่อเรื่องของสิว
แต่ก็มีสรรพคุณอื่นๆ ลดความมัน แต่บำรุงให้ผิวชุ่มชื้น
ก็ขอนับเป็นครีมที่ทาหน้าแบบตัวเดียวจบไปด้วยเลยแล้วกันนะคะ
เห็นบล็อกเก้อร์ อย่าพี่เอิ๊ก เอิ๊ก หรือนักรีวิว
รีวิวเยอะมากกก แล้วก็เห็นมีกิจกรรมในพันทิปด้วยช่วงก่อนหน้านี้
ก็ขอสอยมาลองหน่อยก็แล้วกันค่ะ ว่าเป็นไงบ้าง
มาในรูปแบบหลอดบีบ หัวเรียวเล็กขนาดกระจุ๋มกระจิ๋ม
ฝาเป็นแบบหมุนเกลียวเรียวแหลม
สีสันสวยสดใส วัยรุ่นน่าจะชอบ
Texture
: เป็นเนื้อครีมสีขาว
มีกลิ่นเหมือนยาแต้มสิวทั่วๆ ไป คืออ่านของคนอื่นว่าไม่มีกลิ่น
แต่ตอนใช้อาจเพราะเราทาทั้งหน้าเลยได้กลิ่นรึป่าว ไม่แน่ใจ แต่คือได้กลิ่นจริงๆ
Feeling
: เนื้อครีมหนืดๆ เล็กน้อย
และไม่ได้ทาเยอะเลยไม่รู้ว่าถ้าทาปริมาณปกติแบบครีมตัวอื่นๆ จะเหนอะมั้ย
เพราะบีบออกมาทาน้อยๆ ราคาถ้าเทียบปริมาณก็ค่อนข้างสูงอยู่ จะบรรจงใช้นิดนึง
ให้ฟิลลิ่ง สมัยวัยสาวที่ทาพวกยาทาสิว เพราะกลิ่นมันใช่มาก
ผลลัพธ์ : สิวยุบดีมากเว่อ
คือตอนใช้ ใช้ช่วง เรื่องนี้ยกให้จริงๆ แล้วก็หน้าไม่ได้ลอกนะถ้ามองด้วยตาเปล่า แต่ตอนแต่งหน้าด้วยแป้งก็แอบเป็นขุยหน่อยๆ
แต่โดยรวมหน้าไม่ได้แห้งตึง ลอกเป็นแผ่นๆ เหมือนยาสิวทั่วไป
ใครเป็นสิวหนักหน่วง
หรือมีปัญหาสิวหลักๆ ก็แนะนำตัวนี้นะคะ
7. BIODERMA Hydrabio Serum
ปริมาณ 40 ml ราคา 1,390 บาท
BIODERMA
เป็นเวชสำอางชั้นนำจากฝรั่งเศส โดยซีรี่นี้เขามาในเรื่องของการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นซีรั่ม
และเป็นตัวที่ราคาสูงที่สุดที่เอามารีวิวในครั้งนี้จ้า
โดยที่เจ้าตัวนี้เป็น “สลีปปิ้ง มาร์คเจล สูตรน้ำ”
สารสกัดจากน้ำมันม้า ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่า ช่วยเติมความสมบูรณ์ให้ผิวหน้าระหว่างการพักผ่อนโดยไม่ต้องล้างออก
ชะลอการเกิดริ้วรอย มอบผิวใหม่ที่ดูอิ่มน้ำชุ่มชื้น
สดชื่นเปล่งปลั่งได้อย่างเต็มเปี่ยม เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
โดยเฉพาะผิวแห้งและผิวขาดน้ำ ใช้สำหรับมาสก์บำรุงผิวหน้าและลำคอ ระหว่างการนอนหลับ
เสริมการบำรุงผิวหน้าระหว่างสัปดาห์
ขวดสีขาว ฝาสีฟ้า เปิดฝาออกก็จะเป็นแบบหัวปั๊ม และตรงหัวปั๊มกด
สามารถหมุนซ้าย-ขวา เพื่อล็อคและปลดล็อคได้
Texture
:
เนื้อซีรั่มก็จะเป็นสีขาวขุ่นๆ ใสๆ งงกันมั้ยนะ
ก็เป็นเจลที่ขาวขุ่นหน่อยๆ ค่ะ และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย
Feeling
: ตัวเนื้อเจลเกลี่ยง่ายมากกกก ก.ไก่ ล้านตัว และซึมเร็วมากๆ ค่ะ
ผลลัพธ์ : เนื้อสัมผัสเบา
สบาย ให้ความรู้สึกสดชื่นนนนน ที่แบบสัมผัสตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย
และตอนตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็แบบรู้สึกผิวหน้าฟูๆ ผิวอิ่มน้ำเลยตั้งแต่ครั้งแรก
ส่วนตัวชอบใช้ตัวนี้ทาก่อนนอนมากๆ เพราะทาตอนกลางวันแล้ว
ติดตรงที่ถ้าทาติดกันหลายๆ วัน กลางวันหน้าจะมันเยิ้มมากกกก
เลยลดเหลือแค่ตอนกลางวันอย่างเดียว คือวันไหนที่หน้ามีจุดแดงมาจากช่วงกลางวัน
ทาตัวนี้ก่อนนอน ตื่นขึ้นมาคือหนังหน้าคืนสภาพดีดั่งเดิม
.
.
.
เช่นเคย ขอสรุปตารางคะแนนตามด้านล่างนี้นะคะ
จบแล้วสำหรับรีวิวมหากาพย์ ว่าด้วย “ครีม All in one” สวยครบจบในหนึ่งเดียว ฉบับมนุษย์เร่งรีบ
ใครชอบตัวไหน อยากสอย อยากตำตามก็ได้เด้อ ไม่ว่ากันเลย
ใช้แล้วเป็นไงมาบอกกันบ้างคร่า
ส่วนเพื่อนๆ คนไหนมีอะไรอยากสอบถามเพิ่มเติม
ก็พิมพ์ถามไว้ได้ค่ะ ตอบได้จะตอบให้ ตอบไม่ได้จะพยายามไปหาคำตอบให้น้า
สำหรับวันนี้ลากันไปก่อนจ้า
บ๊ายย บายยยย~
0 ความคิดเห็น